การวัดปริมาณสาร

อุปกรณ์เบื้องต้นของวิทยาศาสตร์ 
บีกเกอร์ 
    บีกเกอร์ เป็นแก้วใส ใช้สำหรับบรรจุสารที่มีปริมาณมาก เพื่อละลายสารหรือทำปฏิกิริยาเคมี และสามารถเทสารออกได้ง่ายทางปากบีกเกอร์โดยจะมีขีดบอกปริมาตรซึ่งเป็นค่าโดยประมาณเท่านั้น บีกเกอร์มีหลายขนาดและมีความจุต่างกัน โดยที่ข้างบีเกอร์จะมีตัวเลขระบุความจุของบีกเกอร์
มีทั้งเป็นแบบสูง แบบตี้ย และแบบรูปทรงกรวย(conical berker) บีกเกอร์จะมีปากงอเหมือนปากนกซึ่งเรียกว่า spout ทำให้การเทของเหลว
ออกได้โดยสะดวก Spout ทำให้สะดวกในการวางไม้แก้วซึ่งยื่นออกมาจากฝาที่ปิดบีกเกอร์และ spout ยังเป็นทางออกของไอน้ำหรือแก๊สเมื่อทำการระเหยของเหลวในบกีเกอร์ที่ปิดด้วยกระจกนาฬิกา(watch grass)
  วิธีการเลือกใช้       ขึ้นอยู่กับปริมาณของเหลวที่จะใส่ โดยปกติให้ระดับของเหลวอยู่ต่ำกว่าปากบีกเกอร์ประมาณ 1 - 1 1/2 นิ้ว
        ประโยชน์
1.ใช้สำหรับต้มสารละลายที่มีปริมาณมาก ๆ
2. ใช้สำหรับเตรียมสารละลายต่าง ๆ
3. ใช้สำหรับตกตะกอนและใช้ระเหยของเหลวที่มีฤทธิ์กรดน้อย


กระบอกตวง
     กระบอกตวง ใช้สำหรับวัดปริมาตรของของเหลวที่มีอุณหภูมิไม่สูงกว่าอุณหภูมิของ ห้องปฏิบัติการกระบอกตวงไม่สามารถใช้วัดของเหลวที่มีอุณหภูมิสูงด้เนื่องจากอาจจะทำให้กระบอกตวงแตกได้ กระบอกตวงจะบอกปริมาตรของของเหลวอย่างคร่าวๆ ถ้าต้องการวัดปริมาตรที่แน่นอนต้องใช้อุปกรณ์วัดปริมาตรอื่นๆ เช่น ไพเพทหรือบิวเรท

เทอร์มอมิเตอร์
เครื่องมือใช้วัดระดับอุณหภูมิของสารเป็นชนิดทำด้วยแก้ว ภายในบรรจุแอลกอฮอล์ผสมสีหรือปรอท เพื่อช่วยให้อ่านได้ชัดเจน มีทั้งชนิดที่เป็นองศาเซลเซียสและฟาเรนไฮต์ี้
วิธีการใช้
     เทอร์มอมิเตอร์ ที่ใช้ในการทดลองมีขีดการวัดอุณหภูมิสูงสุดและต่ำสุด แตกต่างกัน ตาม จุดประสงค์ ของการใช้งาน มีขั้นตอนการใช้งานดังนี้
   1.ก่อนใช้ต้องตรวจดูว่าเทอร์มอมิเตอร์ชำรุดหรือไม่
   2.เลือกที่มีช่วงอุณหภูมิสูงสุด - ต่ำสุดให้เหมาะสมกับสิ่งที่จะวัด เพราะถ้านำ        ไป     วัดอุณหภูมิ สูงเกินไปจะทำให้หลอดแก้วแตก
   3. ต้องให้กระเปาะเทอร์มอมิเตอร์จุ่มอยู่ในวัสดุที่ต้องการวัดในบริเวณกึ่งกลาง ไม่ค่อนไปด้านใดด้านหนึ่งและส่วนก้านเทอร์มอมิเตอร์ตั้งตรง
   4.การอ่านอุณหภูมิต้องให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์
การเก็บรักษา
  1.ทำความสะอาดหลังจากการใช้งาน
  2.เช็ดให้แห้งและเก็บเข้ากล่อง และไว้ในที่ที่ปลอดภัย


   หลอดทดลองมีหลายชนิดและหลายขนาด ชนิดที่มีปากและไม่มีปาก ชนิดธรรมดาและชนิดทนไฟขนาดทดลองระบุได้2 แบบ คือความยาวกับเส้นผ่านศูนย์กลางริมนอกหรือขนากความจุเป็นปริมาตร หลอดทดลองส่วนมากใช้สำหรับทดลองปฏิกิริยาเคมีระหว่างสารต่าง ๆ ที่เป็นสารละลาย ใช้ต้มของเหลวที่มีปริมาณน้อย ๆ โดยมี test tube holder จับกันร้อนมือ หลอดทดลองแบบทนไฟจะมีขนาดใหญ่ และหนากว่าหลอดธรรมดา ใช้สำหรับเผาสารต่าง ๆ ด้วยเปลวไฟโดยตรงในอุณหภูมิที่สูง หลอดชนิดนี้ไม่ควรนำไปใช้สำหรับทดลองปฏิกิริยาเคม ีระหว่างสารเหมือนหลอดธรรมดา
 วิธีการเก็บรักษา
 1.ล้างทำความสะอาดด้วยแปรงล้างหลอดทดดลอง
 2.เก็บใส่ตะกร้า ตั้งไว้ในที่ปลอดภัย

ช้อนตักสาร
ที่ใช้ในการทดลอง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตวงสารที่เป็นของแข็งโดยประมาณเมื่อตักสาร แต่ละครั้งต้องปาดปากช้อนเพียงครั้งเดียว โดยไม่กดสารในช้อนก่อนปาด
 วิธีการใช้
  ค่อยๆเปิดขวดสารแล้ว หงายจุกวางไว้ ใช้ช้อนตักสาร แล้วใช้นิ้ว หรือก้านดินสอเคาะก้านช้อนเบาๆเพื่อเทสารในช้อนออกตามปริมาณที่ต้องการ ถ้าเป็นช้อนที่มีเบอร์สำหรับตวงสารปริมาณต่างกัน ให้ตักสารก่อนแล้วจึงใช้ด้ามช้อนอีกด้ามหนึ่งปาดผิวให้เรียบ โดยไม่ต้องกดให้แน่นจะได้สาร 1 ช้อนในปริมาณตามเบอร์นั้น
 การเก็บรักษา
 1.เมื่อใช้ช้อนตักสารแล้วต้องทำความสะอาดช้อนให้แห้งก่อนที่จะใช้ช้อนตักสารชนิดอื่น
 2.ห้ามใช้ช้อนตักสารในขณะที่สารยังร้อน
ตะเกียงแอลกอฮอล์
    บรรจุด้วยแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ จะมีควันหรือเขม่าในขณะที่จุดไฟน้อยมาก หากแอลกอฮอล์ ไม่บริสุทธิ์จะให้เขม่ามาก ทำให้ตะแกรงลวด และวัสดุ ที่ให้ความร้อนสกปรก
  วิธีใช้
  1.ก่อนใช้ต้องตรวจดูสภาพไส้ตะเกียงและที่ยึดว่ามีสภาพพร้อมใช้งาน ไม่แตกร้าว ความยาวไส้ตะเกียงเพียงพอได้เช่น ส่วนยึดไส้ตะเกียง ไม่ร้าว หรือแตก และปริมาณแอกอฮอล์ในตะเกียงมีมากน้อยเพียงใด
  2.เติมแอลกอฮอล์ประมาณครึ่งหนึ่งของตะเกียงและอย่าให้หกเลอะขอบตะเกียง เช็ดให้แห้ง โดยใช้กรวยและเติมด้วยความระมัดระวังอย่าให้หก เพราะเมื่อจุด ตะเกียงแล้ว อาจทำให้ไฟไหม้ลุกลามได้
  3.ปรับไส้ตะเกียงเพื่อให้ได้ขนาดเปลวไฟตามที่ต้องการ
  4.จุดตะเกียงโดย ใช้ ไม้ขีดไฟ อย่าใช้ตะเกียงไปต่อกับตะเกียงดวงอื่น เพราะอาจทำให้แอลกอฮอล์ในตะเกียงติดไฟ
 5.เมื่อใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์เสร็จแล้วต้องดับตะเกียงทันที โดยใช้ฝาครอบปิด ห้ามใช้ปากเป่าให้ดับ การครอบต้องครอบให้สนิททุกครั้งเพื่อป้องกันมิให้แอลกอฮอล์ระเหย
  6.ควรมีกระป๋องทรายไว้ทิ้งก้านไม้ขีดที่จุดไฟแล้ว
 การเก็บรักษา ทำความสะอาดหลังใช้งาน ครอบฝาตะเกียงแล้วเก็บเข้าตู้

แท่งแก้วคนสาร
   แท่งแก้วคนสารใช้สำหรับคนสารละลายให้ผสมเป็นเนื้อเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ หรือใช้เมื่อจะเทสารละลายจากภาชนะหนึ่ง
ลงในภาชนะอีกชนิดหนึ่ง โดยจะเทสารละลายให้ไหลไปตามแท่งแก้วคนสารแท่งแก้วคนสารที่มียางสวมอยู่อีกปลายด้านหนึ่ง เรียก
ว่า Policeman จะใช้สำหรับปัดตะกอนที่เกาะอยู่ข้าง ๆ และถูภาชนะให้ปราศจากสารต่าง ๆ ที่เกาะอยู่ข้าง ๆ
ยางสวมนั้นต้องแน่น
   วิธีใช้
วิธีที่ 1 การกวนสารละลายด้วยแท่งแก้ว เป็นการกวนของแข็งให้ละลายในเนื้อเดียวกันกับสารละลายหรือเป็นการกวนให้สารละลายผสมกันโดยใช้แท่งแก้ว การกวนสารละลาย ต้องกวนไปในทิศทางเดียว และระวังอย่าให้แท่งแก้วกระทบกับข้างหลอดทดลองหรือก้นหลอดทดลอง เพราะจะทำให้หลอดทดลองทะลุได้ หากเป็นการผสมสารละลายที่มีจำนวนมากก็ควรใช้ปีกเกอร์แทนหลอดทดลองและใช้เทคนิคการกวนสารละลายเช่นเดียวกัน
วิธีที่ 2 การหมุนสารละลายด้วยข้อมือ เป็นเทคนิคการผสมสารละลายในหลอดทดลอง กระบอกตวงหรือฟลาสให้มีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกันทุกส่วนวิธีหนึ่ง โดยใช้มือจับทางส่วนปลายของอุปกรณ์ดังกล่าวแล้วหมุนด้วยข้อมือให้สารละลายข้างในไหลวน

หลอดฉีดยา
   หลอดฉีดยาเป็นอุปกรณ์วัดปริมาตรของเหลวอย่างง่าย ที่ไม่ต้องการความละเอียดมากนัก นิยมใช้ในโรงเรียนเนื่องจากราคาถูก และหาซื้อได้ง่าย ทำด้วยแก้วหรือพลาสติกมีขนาดต่างๆกัน ที่ใช้ในโรงเรียนส่วนมากมีตั้งแต่ขนาด 5  cm3  จนถึง 35 cm3
  วิธีการใช้
     1.เลือกขนาดของหลอดฉีดยาให้เหมาะสมกับปริมาตรที่ต้องการวัดดงก้านหลอดฉีดยาขึ้นและกดลง เพื่อให้ยางที่ปลายก้านหลอดฉีดยาเลือนได้คล่อง
    2.กดก้านหลอดฉีดยาจนสุดเพื่อไล่อากาศออกให้หมด
    3.จุ่มปลายหลอดฉีดยาลงในของเหลว ค่อยๆ ดึงก้านหลอดฉีดยาขึ้นขณะที่ดูดสารละลายเข้าไปในหลอดฉีดยา ระวังอย่าให้มีฟองอากาศถ้ามีต้องกดก้านหลอดฉีดยาลงไปจนสุดเพื่อไล่อากาศ แล้วค่อยๆดึงก้านหลอดฉีดยาให้ส่วนที่โค้งต่ำสุดของลูกยางตรงกับขีดปริมาตรที่ต้องการ
  การเก็บรักษา  ห้ามใช้หลอดฉีดยาที่ทำด้วยพลาสติกตวงสารอนินทรีย์ เพราะจะทำให้พลาสติกละลาย เมื่อเสร็จงานแล้วต้องล้างทำความสะอาด เช็ดให้แห้งสนิท

เครื่องชั่ง
   เป็นเครื่องชั่งชนิด Mechanical balance อีกชนิดหนึ่งที่มีราคาถูกและใช้ง่าย แต่มีความไวน้อย เครื่องชั่งชนิดนี้มีแขนข้างขวาอยู่ 3 แขนและในแต่ละแขน จะมีขีดบอกน้ำหนักไว้เช่น 0-1.0 กรัม 0-10 กรัม 0-100 กรัม และยังมีตุ้ม น้ำหนักสำหรับเลื่อนไปมาได้อีกด้วย แขนทั้ง 3 นี้ติดกับเข็มชี้อันเดียวกัน
หมายเหตุ การหาน้ำหนักของสารอาจหาน้ำหนักทั้งขวดบรรจุสารและสารรวมกันก่อน ก็ได้ แล้วชั่งขวดบรรจุสารอย่างเดียวทีหลัง ต่อจากนั้นก็เอาน้ำหนักทั้ง 2 ครั้งลบกัน ผลที่ได้ จะเป็นน้ำหนักของสารที่ต้องการ
 วิธีการใช้
     วิธีการใช้เครื่องชั่งแบบ (Triple- beam balance)
*  ตั้งเครื่องชั่งให้ได้ระดับกับพื้นราบ (เครื่องชั่งสองหน้า หากไม่ได้ระดับเข็มจะไม่ตรงกัน)
        *  ถาดชั่งต้องมีหมายเลขตรงกับเครื่องชั่ง และสะอาด
        *   ก่อนชั่ง เข็มจะต้องตรงศูนย์ (0) ถ้าไม่ตรง ให้ปรับให้ตรงด้วยวิธีใช้คีมหมุนน๊อตใต้ถาดชั่ง
        *   อย่าชั่งน้ำหนักเกินพิกัดกำลังของเครื่องชั่ง
        *   การชั่งให้วางสิ่งของตรงบริเวณกึ่งกลางของถาดชั่ง
        *  อย่าวางสิ่งของลงบนถาดชั่งด้วยวิธีกระแทก
        *  ถ้าชั่งสิ่งที่ไม่สะอาด  ควรห่อหุ้มเสียก่อน
 การเก็บรักษา
       *  เมื่อไม่ใช้เครื่องชั่ง  ไม่ควรวางสิ่งของไว้บนถาดชั่ง
         *  ระวังอย่าให้น้ำเข้าไปในเครื่องชั่ง
         *  ควรตั้งเครื่องชั่งไว้ในที่ไม่มีฝุ่นผงและความชื้น
หลอดหยด
  เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สําหรับตวงของเหลวปริมาณน้อย ๆ ทำได้โดยการนับจำนวน หยดของของเหลวที่หยดลงไป และสามารถเทียบมาตรฐาน(calibrate) ด้วยกระบอกตวง แล้วใช้เป็นค่าโดยประมาณ สำหรับทำการทดลอง ต่อไปได้ มีลักษณะเป็นหลอดแก้วที่ปลายข้างหนึ่งยาวเรียวเล็ก และปลายอีกข้างหนึ่งมีกระเปาะยางสวมอยู่
  วิธีการใช้
  หลอดหยดใช้สำหรับดูดของเหลวต่างๆที่่ใช้ในการปฏิบัติการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เช่น ดูดสารละลายด่างทับทิม เกลือแกง กรดต่างๆเป็นต้น หลอดหยดเมื่อใช้ดูดสารชนิดหนึ่งแล้วห้ามนำไปดูดสารต่างชนิดกัน ถ้ายังไม่ได้ ทำความสะอาด
   การเก็บรักษาใช้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำความสะอาดเช็ดให้แห้ง เก็บไว้ในตู้อุปกรณ์
   ข้อควรระวัง
  1.อย่าให้ปลายของหลอดหยด กระทบหรือแตะกับ ปลายหลอดทดลอง
  2.อย่าให้สารละลายสัมผัสกับกระเปาะยางเพราะจะทำให้สารละลายถูกปนเปื้อนได้ และถ้าสารละลายมีฤทธิ์เป็นกรดก็จะกัดกร่อนกระเปาะยางด้วย ดังนั้นเมื่อทำการทดลองเสร็จแล้วควรรีบดึงกระเปาะยางออกจากหลอดแก้วทันที
บิวเรท

บิวเรทเป็นอุปกรณ์วัดปริมาตรที่มีขีดบอกปริมาตรต่างๆ และมีก็อกสำหรับเปิด-ปิด เพื่อบังคับการไหลของของเหลว บิวเรทเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ มีขนาดตั้งแต่ 10 มล. จนถึง 100 มล. บิวเรทสามารถวัดปริมาตรได้อย่างใกล้เคียงความจริงมากที่สุด แต่ก็ยังมีความผิดพลาดอยู่เล็กน้อย ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของบิวเรท เช่น

บิวเรทขนาด 10 มล. มีความผิดพลาด 0.4% 
บิวเรทขนาด 25 มล. มีความผิดพลาด 0.24% 
บิวเรทขนาด 50 มล. มีความผิดพลาด 0.2% 
บิวเรทขนาด 100 มล. มีความผิดพลาด 0.2%
ปิเปต

ปิเปต  (Pipet หรือ Pipette)
เป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับวัดปริมาตรของสารละลายให้มีความแน่นอนและมีความแม่นยำสูง
Graduated pipette หรือ Measuring pipette
มีลักษณะเป็นหลอดแก้วที่มีสเกลบอกปริมาตรต่างๆไว้ 
ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า  Volumetric pipette 
แต่มีความแม่นยำน้อยกว่า  Volumetric pipette เช่นกัน
Graduated pipette ขนาด 10 มล. มีความผิดพลาด 0.3% 
Graduated pipette ขนาด 30 มล. มีความผิดพลาด 0.3%


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นอนน้อยเพียงคืนละ 4 ชั่วโมงไม่อ่อนเพลีย หากมียีนกลายพันธุ์

สุขภาพ : นอนน้อยเพียงคืนละ 4 ชั่วโมงไม่อ่อนเพลีย หากมียีนกลายพันธุ์ บรรดาคนดังและผู้นำประเทศหลายคน เช่นนายโดนัลด์ ทรัมป์และนางอังเก...